มาสเตอร์คลาสในหัวข้อความปลอดภัยของอาหาร: การสัมมนาออนไลน์ตามเวลาที่ต้องการ

ปัจจุบันมีมาตรฐานและกฎข้อบังคับหลายฉบับที่กำหนดให้ส่งผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานควรถูกคัดออกไปอยู่ในถังคัดแยกที่สามารถเข้าถึงได้โดยผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างถูกต้องเกี่ยวกับวิธีตรวจสอบผลิตภัณฑ์ซ้ำ แก้ไขผลิตภัณฑ์ หรือกำจัดผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกไปเท่านั้น 

เครื่องตรวจจับโลหะ ทำงานโดยใช้หลักการนำไฟฟ้า โดยวัสดุที่นำไฟฟ้าก็ส่งผลต่อการทำงานของเครื่องตรวจจับโลหะด้วยเช่นกัน ดังนั้นการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีวัสดุนำไฟฟ้าอยู่ภายใน เช่น พายที่อยู่ในถาดฟอยล์ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นฟิล์มหรือฟอยล์โลหะแบบหนา มักเป็นปัญหาสำหรับงานตรวจจับโลหะ ระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปน จะไม่ได้รับผลกระทบจากคุณสมบัตินำไฟฟ้าของบรรจุภัณฑ์ ซึ่งหมายความว่าวัสดุของบรรจุภัณฑ์ไม่มีผลต่อผลที่ได้จากระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปน

รวมทั้งยังต้องพิจารณาอีกหลายแง่มุมขณะเลือกโซลูชันการตรวจสอบผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะกับงาน/ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารแต่ละรายการ ผมขอแนะนำให้ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อหาโซลูชันที่ดีที่สุด

HACCP ย่อมาจาก Hazard Analysis Critical Control Points (การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม) ขณะที่ HARPC ย่อมาจาก Risk Control Risk Based Preventative Controls (การควบคุมเชิงป้องกันตามแนวความเสี่ยงของการควบคุมความเสี่ยง) 

HARPC เป็นมาตรฐานภายใต้กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหารให้ทันสมัย (Food Safety Modernization Act) ที่ได้ประกาศใช้ในสหรัฐอเมริกา มาตรฐานนี้มีไว้เพื่อป้องกันให้อาหารปลอดภัยจากการปนเปื้อนโดยไม่เจตนา 

VACCP  ย่อมาจาก Vulnerability Assessment Critical Control Point (การประเมินจุดความอ่อนไหววิกฤติที่ต้องควบคุม) ขณะที่ TACCP ย่อมาจาก Threat Assessment Critical Control Point (การประเมินจุดภัยคุกคามวิกฤติที่ต้องควบคุม) มาตรฐานเหล่านี้จะสอดคล้องกับข้อกำหนดต่างๆ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนโดยไม่ได้เจตนาที่มีขอบเขตภายใต้ FSMA ซึ่งจะบรรลุเป้าหมายได้โดยการประเมินความเสี่ยงของสถานที่ผลิตและการระบุวิธีในการควบคุม รวมทั้งการคำนวณภัยคุกคามของการปนเปื้อนโดยเจตนาที่อาจเกิดขึ้น 

เมื่อผู้คนได้ยินคำว่าเอ็กซเรย์ ก็มักนึกถึงรังสีและเกิดความหวาดกลัว แน่นอนว่าอุปกรณ์เอ็กซเรย์เป็นอุปกรณ์ที่ให้กำเนิดรังสี วิธีให้กำเนิดรังสีเอ็กซ์คือการใช้หลอดไฟอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ตรงข้ามกับแหล่งกำเนิดรังสี ดังนั้นจึงไม่มีแหล่งกำเนิดรังสีอยู่ภายใน เราสร้างรังสีเอ็กซ์ขึ้นได้อย่างปลอดภัยมากผ่านระบบหลอดไฟอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟฟ้า รังสีเอ็กซ์ก็จะเกิดขึ้น และทันทีที่ตัดกระแสไฟฟ้า ก็จะไม่มีรังสีเอ็กซ์หรือรังสีใดๆ ตกค้างอยู่อีกต่อไป

เนื่องจากระบบเอ็กซเรย์เป็นอุปกรณ์ให้กำเนิดรังสี จึงมีกฎข้อบังคับต่างๆ เกี่ยวกับการออกแบบและการใช้งานของระบบเพื่อรับประกันถึงการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาตลอดจนประเทศและภูมิภาคอื่นๆ จะมีแนวทางที่มาจากรัฐบาลกลาง และข้อกำหนดต่างๆ ที่อาจแตกต่างกันเล็กน้อย โดยในปัจจุบัน มีการนำระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนมาใช้งานกันโดยทั่วไปในโรงงานผลิต ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยในบริเวณที่มีการติดตั้งระบบเอ็กซเรย์นี้

ในระหว่างการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ จะมีปริมาณรังสีเอ็กซ์ต่ำ พลังงานของรังสีเอ็กซ์ในแต่ละเครื่องค่อนข้างต่ำ และระยะเวลาในการตรวจสอบก็สั้นมาก ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้ระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนมักจะสัมผัสกับรังสีเอ็กซ์ที่มีพลังงานต่ำเป็นเวลาน้อยกว่า 0.2 วินาที ปริมาณรังสีเบื้องหลังที่ผลิตภัณฑ์ได้รับในขณะที่อยู่บนชั้นวาง ระหว่างการขนส่ง หรือในเมื่อถึงมือผู้บริโภคแล้วกลับมีสูงกว่าปริมาณรังสีที่ได้รับจากระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนที่สายการผลิตเสียอีก องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ประเมินปริมาณรังสีจากวัตถุที่ผ่านการตรวจสอบด้วยระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนว่ามีต่ำกว่าปริมาณรังสีเบื้องหลังเป็นเวลาหนึ่งวัน นอกจากนี้ FDA ยังยืนยันว่าไม่มีอันตรายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตรวจสอบด้วยรังสีเอ็กซ์

การเพิ่มระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนเข้าไปในกระบวนการผลิตจะมีประโยชน์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่ามีอันตรายหรือมีความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายจากสิ่งปลอมปนที่เครื่องตรวจจับโลหะไม่สามารถตรวจพบสิ่งปลอมปนได้ แต่ระบบเอ็กซเรย์สามารถตรวจพบได้หรือไม่ ตามปกติแล้ว มักขึ้นอยู่กับข้าวโพดดิบที่เก็บเกี่ยวเข้ามาไว้ในโรงสีตั้งแต่ต้นนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งในบางครั้ง ระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนสำหรับผลิตภัณฑ์จำนวนมากก็สามารถตรวจจับเศษชิ้นเล็กๆ จากไร่ เช่น พลาสติกแข็ง หิน หรือ แก้วที่มาจากในไร่ได้โดยตรง

และเท่าที่มีการตรวจสอบตลอดกระบวนการผลิตมานั้น เราขอแนะนำให้ระบุสิ่งปลอมปนที่เป็นอันตรายให้ได้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีการใส่วัตถุดิบนั้นเข้าไปในผลิตภัณฑ์

เมื่อคุณเริ่มบดผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คุณต้องเพิ่มปริมาณวัตถุดิบให้มากขึ้น เมื่อผ่านไปแต่ละขั้นตอน คุณต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น ใช้ชั่วโมงทำงานมากขึ้น ใช้ทรัพยากรมากขึ้น และใช้ส่วนผสมมากขึ้น ด้วยการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในช่วงต้นของกระบวนการผลิต คุณสามารถลดการสูญเสียผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงประสิทธิภาพ และแม้กระทั่งการป้องกันอุปกรณ์ในการแปรรูปบางอย่างได้ สถานการณ์ในอุดมคติคือ มีระบบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในทุกระยะของกระบวนการผลิต ตั้งแต่จุดเริ่มต้น กึ่งกลาง หรือปลายสายการผลิตเพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการผลิตและการสูญเสียผลิตภัณฑ์ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วย

หากคุณมีเพียงการตรวจสอบที่ปลายสายการผลิต เมื่อพบปัญหาขึ้นมา คุณต้องดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบห่วงโซ่แห่งคุณค่าทั้งหมดเพื่อค้นหาปัญหาที่เกิดขึ้นและระบุสาเหตุที่เกิดขึ้น และ
2. คุณได้เพิ่มคุณค่า เวลา พลังงาน ทรัพยากรเข้าไปในการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้วเพื่อค้นหาปัญหา จากนั้นก็โยนสิ่งเหล่านั้น บรรจุภัณฑ์ พลังงานทั้งหมดนั้นลงในถังคัดแยกและทิ้งผลิตภัณฑ์นั้นไปการดำเนินการเช่นนี้จะทำให้มีการสูญเสียผลิตภัณฑ์มากขึ้นและลดประสิทธิภาพลง

ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญบางส่วนเหล่านี้เมื่อพยายามกำหนดว่าตำแหน่งที่ตั้งใดเหมาะสำหรับอุปกรณ์ตรวจสอบ หรือตำแหน่งที่ตั้งใดเหมาะสำหรับการตรวจสอบหลายรายการตลอดกระบวนการ

การติดตั้งระบบไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับโลหะหรือระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนต่างก็เป็นวิธีที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดโอกาสที่จะเกิดการคัดแยกที่ผิดพลาด การคัดแยกที่ผิดพลาดเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดหากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและวางจำหน่ายได้ต้องตกไปอยู่ในถังคัดแยก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจต้องถูกทิ้งให้กลายเป็นของเสีย หรือต้องลงทุนลงแรงและใช้เวลามากขึ้นเพื่อแก้ไขผลิตภัณฑ์ ทั้งๆ ที่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ควรถูกคัดออกตั้งแต่แรก

ในบางกรณีก็อาจเกิดการคัดแยกที่ผิดพลาดขึ้นได้ แต่ซอฟต์แวร์ขั้นสูงของระบบตรวจจับโลหะและระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนที่ทันสมัยและการตั้งค่าผลิตภัณฑ์อัตโนมัติจะช่วยลดการคัดแยกที่ผิดพลาดลงได้

การใช้ระบบเอ็กซเรย์ในอาหารและเครื่องดื่มถือเป็นเรื่องปกติมาก ซึ่งประมวลหลักการปฎิบัติสำหรับการค้าปลีกหลายฉบับในปัจจุบันนี้กำหนดว่าต้องมีระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนรวมอยู่ในโปรแกรมป้องกันวัสดุแปลกปลอมด้วย เพื่อให้สามารถระบุและตรวจจับสิ่งปลอมปนที่ไม่นำไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากที่เครื่องตรวจจับโลหะมาตรฐานจะตรวจพบได้  แท้จริงแล้ว หลายคนเชื่อว่าเทคโนโลยีทั้งสองประเภทนั้นจำเป็นต้องมีการป้องกันในระดับสูงสุดเพื่อไม่ให้อาหารที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าสู่ตลาด

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนและรังสีอีกด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในหลายประเทศทั่วโลก แต่โดยภาพรวมแล้วนั้น ระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนของเรามีการทำงานที่ดีเกินกว่ามาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดทั่วโลกและปลอดภัยต่อการใช้งาน 

เราทราบมาว่ามีระบบตรวจจับโลหะที่อายุมากกว่า 20 ปี และยังคงใช้งานในสายการผลิตได้นับตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้งจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ เรายังมีระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปนที่ได้ติดตั้งมาแล้วกว่า 12 ปี หากคุณสนับสนุนและซ่อมบำรุงอุปกรณ์การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งาน นับตั้งแต่การติดตั้งไปจนถึงการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน และการทวนสอบประสิทธิภาพการทำงานไปจนถึงการซ่อมแซมอุปกรณ์ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบได้อย่างแน่นอน  

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ผลิตหรือจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาต้องตรงตามข้อกำหนดเบื้องต้นหากมีการควบคุมจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) หรือกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) นอกจากนี้ยังอาจมีข้อกำหนดต่างๆ ที่สถานที่ผลิต ผู้ค้าค้าปลีกและ/หรือเจ้าของแบรนด์แต่ละรายอาจต้องปฏิบัติตามเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดควรบังคับใช้หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) และการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (HACCP) ในการผลิตอาหาร

มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นที่ผู้ผลิตอาหารจะใช้ระบบที่ชาญฉลาดมากขึ้นในการปรับปรุงระบบอัตโนมัติและความสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ภายในโรงงาน การผลิตที่มีการเชื่อมต่อผ่านโครงสร้างพื้นฐานแบบเครือข่ายสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของสายการผลิตและการควบคุมการจัดการได้  แต่อย่างน้อยที่สุดนั้น การทดสอบระบบก่อนปฏิบัติงานและการทดสอบที่ปลายสายการผลิตย่อมเป็นสิ่งที่ดีสุดเสมอ เพื่อรับประกันการทำงานที่เหมาะสม

คุณต้องมั่นใจว่ามีการติดตั้งระบบอย่างถูกต้องและทำงานอย่างเสถียร รวมทั้งควรตั้งระดับความไวสูงสุดโดยต้องไม่มีผลิตภัณฑ์ไหลผ่านได้หากทำงานไม่เสถียร ผมขอแนะนำให้ติดต่อรับการเข้าซ่อมบำรุง หากทำงานเสถียรแล้ว คุณควรปรับระดับความไวเพื่อให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้สำเร็จโดยไม่มีผลเป็นเท็จ จากนั้นให้ทดสอบระบบเพื่อกำหนดความสามารถในการตรวจจับ

แม้จะมีการใช้โซลูชันประเภท Blockchain และบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย แต่ระบบส่วนใหญ่เหล่านี้มักจะมีข้อจำกัดในการควบคุมการเข้าถึงรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยทั้งทางกายภาพและทางไซเบอร์นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง

แต่สามารถทดสอบผลิตภัณฑ์เพื่อกำหนดความสามารถในการตรวจจับตามการใช้งานเฉพาะทางได้ โปรดติดต่อสำนักงานในประเทศของคุณเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบผลิตภัณฑ์