อุตสาหกรรม 4.0 – อินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง
ยกระดับการผลิตของคุณขึ้นไปอีกขั้น
การพัฒนาล่าสุดเกี่ยวกับอุตสาหกรรม 4.0 และอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่งเริ่มเอื้อให้เกิดการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ลำดับขั้นการผลิตแบบเดิมที่ใช้การควบคุมจากส่วนกลางกำลังปรับเปลี่ยนเป็นการจัดระเบียบด้วยตัวเองแบบกระจายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้นั้นจะสื่อสารอย่างเป็นอิสระกับอุปกรณ์การผลิต และจะเป็นฝ่ายเข้าไปมีส่วนในกระบวนการผลิต
ในขณะที่เทคโนโลยีการตรวจวัดพัฒนาขึ้น การแปลงเป็นระบบดิจิทัลก็ได้กลายเป็นองค์ประกอบหลักของนวัตกรรม ตัวอย่างเช่น ธุรกิจจำนวนมากได้ทำการปรับเปลี่ยนจากการส่งสัญญาณแอนะล็อกเป็นการถ่ายโอนข้อมูลดิจิทัลตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยเหตุนี้เอง อุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์การตรวจวัดอัจฉริยะจึงให้ประโยชน์มากกว่าแค่ค่าตรวจวัดที่ถูกต้อง โดยจะให้ข้อมูลสถานะแบบเรียลไทม์ที่ผ่านการรับรองเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต รวมถึงสถานะของอุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์
อุปกรณ์เหล่านี้ยังให้ข้อมูลสำหรับเริ่มการบำรุงรักษาเชิงป้องกันก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการบริหารการปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดีทั้งในการดูแลให้การผลิตดำเนินต่อไป การหลีกเลี่ยงเวลาหยุดทำงาน และการวางแผนซ่อมแซมในเวลาที่เหมาะสม เทคโนโลยีการตรวจวัดดังกล่าวยังมีความสามารถในการผสานรวมเข้ากับเครือข่ายข้อมูลและระบบควบคุมได้โดยอัตโนมัติ จึงทำให้การติดตั้งในครั้งแรกและการเปลี่ยนทดแทนกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
METTLER TOLEDO มีเทคโนโลยีการตรวจวัดที่หลากหลายที่จะผสานการทำงานเข้ากับโรงงานอัจฉริยะในปัจจุบันได้อย่างราบรื่น หรือสร้างโอกาสต่างๆ ในอนาคต
เกตเวย์สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลอุตสาหกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต
ให้คุณได้ปฏิบัติงานด้วยเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 อุปกรณ์ ACI400 IIoT Edge Device จาก METTLER TOLEDO คือเกตเวย์สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลอุตสาหกรรมผ่านอินเทอร์เน็ต
ใช้ข้อมูลการชั่งน้ำหนักเพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้คุณ
ซอฟต์แวร์ Collect+™ จะบันทึกน้ำหนักการผลิตและข้อมูลของกระบวนการจากเครื่องชั่งทุกเครื่องในพื้นที่ปฏิบัติงานของคุณ และแสดงภาพบนแผงควบคุมที่เข้าใจได้ง่าย ใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการตรวจสอบ การจัดทำโครงการด้านคุณภาพ และการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ
การบริการจากระยะไกล
InTouchSM
การตรวจสอบจากระยะไกลสำหรับกระบวนการชั่งน้ำหนักช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการหยุดการทำงานได้ การสนับสนุนจากระยะไกลช่วยให้การตอบสนองเป็นไปอย่างรวดเร็ว และลดความจำเป็นที่จะต้องดำเนินงาน ณ พื้นที่ปฏิบัติงาน
การถ่ายโอนข้อมูลทั้งหมดได้รับการปกป้องด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองจากบริษัทภายนอก
หน้าจอเครื่องชั่ง เครื่องชั่งแบบตั้งโต๊ะ
และเครื่องชั่งแบบตั้งพื้น
หน้าจอแสดงค่าน้ำหนักสำหรับเครื่องชั่งแบบตั้งโต๊ะและเครื่องชั่งแบบตั้งพื้นแสดงผลการชั่งน้ำหนักและมีฟังก์ชันการเรียนรู้ด้วยตัวเองพร้อมข้อมูลสถานะ โดยจะส่งต่อผลลัพธ์เหล่านี้ไปยังระบบควบคุมหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสายการผลิต
โมดูลการชั่งน้ำหนักสำหรับพิกัดการชั่งต่ำและสูง
โมดูลการชั่งน้ำหนักขนาดเล็กและโมดูลการชั่งน้ำหนักขนาดใหญ่สำหรับถัง สายพานลำเลียง หรืออุปกรณ์ชั่งน้ำหนักแบบกำหนดเองจะมีไมโครโปรเซสเซอร์ในตัวเพื่อมอบผลลัพธ์ในการชั่งพร้อมข้อมูลสถานะแบบเรียลไทม์ให้กับระบบควบคุม
เครื่องส่งสัญญาณเครื่องชั่งน้ำหนักสำหรับผสานการทำงานกับตู้ควบคุม
เครื่องส่งสัญญาณสำหรับการติดตั้ง DIN-Rail จะให้ผลการชั่งน้ำหนักที่รวดเร็วมาก พร้อมข้อมูลสถานะที่ครบถ้วน ซึ่งจะทำให้สามารถตั้งค่าลำดับความสำคัญสำหรับระบบการจัดการสัญญาณเตือนผ่านอีเทอร์เน็ตไปยัง PLC ฐานอุตสาหกรรมได้
โซลูชันการตรวจสอบผลิตภัณฑ์แบบไดนามิก
เครื่องตรวจสอบน้ำหนักแบบไดนามิกที่สามารถปรับขนาดได้ เครื่องตรวจจับโลหะ ระบบเอกซเรย์ และระบบตรวจสอบด้วยภาพจะให้ข้อมูลสถานะและข้อมูลการผลิตแบบเรียลไทม์แก่ระบบ PLC หรือ ERP ผ่านฟิลด์บัสอุตสาหกรรมหรือเซิร์ฟเวอร์ OPC
โมดูลการชั่งน้ำหนักความแม่นยำสูงสำหรับพิกัดการชั่งต่ำ
โมดูลชั่งน้ำหนักความแม่นยำสูงสำหรับการชั่งน้ำหนักอัตโนมัติจะให้ค่าน้ำหนักที่ถาวร พร้อมข้อมูลสถานะอย่างละเอียด โดยมาพร้อมกับการสอบเทียบแบบรวมเพื่อดำเนินการทดสอบคุณสมบัติการทำงานได้ทุกเวลา
เทคโนโลยีการจัดการเซ็นเซอร์แบบอัจฉริยะ (ISM®)
เซ็นเซอร์วิเคราะห์จะทำการวินิจฉัยแบบละเอียดซับซ้อนเพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาที่จะต้องดำเนินการบำรุงรักษา สอบเทียบ หรือเปลี่ยนทดแทน เซ็นเซอร์รุ่นล่าสุดสามารถเรียนรู้จากเซ็นเซอร์อื่นๆ ได้อีกด้วย
การรวมระบบโดยตรงสำหรับเครื่องส่งสัญญาณการวิเคราะห์กระบวนการ
เครื่องส่งสัญญาณที่ติดตั้ง ISM ทำให้สามารถผสานรวมการวินิจฉัยเซ็นเซอร์เข้ากับสถาปัตยกรรมการควบคุมแบบทั่วไปทั้งหมดที่ใช้สำหรับการติดตามซอฟต์แวร์การจัดการสินทรัพย์ในห้องบำรุงรักษาได้อย่างง่ายดาย
การปฏิวัติอุตสาหกรรมคืออะไร? อุตสาหกรรม 4.0 คืออะไร?
อุตสาหกรรม 4.0 คือการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 หลังจากการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์สำคัญ ได้แก่ 1. เครื่องจักรไอน้ำ 2. ไฟฟ้าและสายการประกอบชิ้นส่วน 3. คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและระบบควบคุมที่ตั้งโปรแกรมได้ และปัจจุบันคือ 4. อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อแบบอัจฉริยะ อุตสาหกรรม 4.0 ส่งเสริมการผลิตแบบล็อตละหน่วย (Lot Size One) สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ อุปกรณ์การผลิตแบบแยกส่วน อุปกรณ์อัจฉริยะที่ทำการตัดสินใจเฉพาะที่ การติดตามสถานะ และการบำรุงรักษาที่คาดการณ์ได้ อุตสาหกรรม 4.0 ไม่มีเป้าหมายขจัดบุคคลออกจากการผลิต แต่เป็นการส่งเสริมการสนับสนุนบุคคลด้วยอุปกรณ์ที่ละเอียดซับซ้อนเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
โซลูชันอุตสาหกรรม 4.0 ได้แก่อะไรบ้าง?
โซลูชันอุตสาหกรรม 4.0 ได้แก่อุปกรณ์อัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้และทำการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มผลผลิตได้เองโดยไม่ต้องรับคำสั่งให้ดำเนินการดังกล่าว อุปกรณ์เหล่านี้จะติดตามสถานะของตัวเองตลอดเวลาและใช้อัลกอริทึมคาดเดาระยะเวลาที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องบำรุงรักษาหรือรับวัตถุดิบอีกครั้ง อุปกรณ์อัจฉริยะมักมีหน่วยความจำอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในตัวเครื่อง หรือที่เรียกกันว่าฝาแฝดดิจิทัล (Digital Twin)
อุตสาหกรรม 4.0 ทำงานอย่างไร? อุตสาหกรรม 4.0 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างไรบ้าง?
อุตสาหกรรม 4.0 ส่งเสริมการผลิตแบบล็อตละหน่วย (Lot Size One) สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ อุปกรณ์การผลิตแบบแยกส่วนที่มีความยืดหยุ่น อุปกรณ์อัจฉริยะที่ทำการตัดสินใจเฉพาะที่ การติดตามสถานะ และการบำรุงรักษาที่คาดเดาได้ อุตสาหกรรม 4.0 ไม่มีเป้าหมายขจัดบุคคลออกจากการผลิต แต่เป็นการส่งเสริมการสนับสนุนบุคคลด้วยอุปกรณ์ที่ละเอียดซับซ้อนเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด
การใช้เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมจะเป็นประโยชน์กับผู้ผลิตอย่างไร?
โซลูชันการเชื่อมต่อใหม่ๆ อย่าง OPC UA และ MQTT ช่วยเอื้อให้แลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กำหนดค่าได้อย่างง่ายดาย ส่วนการเรียนรู้ของเครื่องและเครื่องมือซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์ทำให้สามารถค้นหาความผิดปกติหรือรูปแบบในข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ในเวลาอันสั้น เพื่อระบุจุดที่เป็นปัญหาหรือโอกาสในการปรับปรุง นอกจากนี้ คุณสมบัติการบำรุงรักษาที่คาดการณ์ได้จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงการหยุดทำงานของเครื่องจักร และเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนบำรุงรักษา ผู้ผลิตจึงสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เพิ่มความยืดหยุ่น และลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นด้วยการนำคำแนะนำอุตสาหกรรม 4.0 ไปปรับใช้
การใช้เทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมจะเป็นประโยชน์กับพนักงานอย่างไร?
พนักงานที่ทำงานในโรงงานที่นำคำแนะนำอุตสาหกรรม 4.0 ไปปรับใช้จะได้รับการสนับสนุนด้วยอุปกรณ์และเครื่องจักรที่ละเอียดซับซ้อน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น การปฏิบัติงานถูกหลักสรีระการทำงานมากขึ้น และมีข้อผิดพลาดลดน้อยลง
การใช้เทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคอย่างไร?
หากสินค้าผลิตตามคำแนะนำอุตสาหกรรม 4.0 ผู้บริโภคจะได้รับสินค้าที่ปรับแต่งรายชิ้นในคุณภาพที่สูงขึ้น พร้อมราคาที่เข้าถึงได้ และด้วยเวลาจัดส่งที่สั้นลง
ความสามารถของระบบในการปรับเข้ากับความต้องการที่เพิ่มขึ้นหมายถึงอะไร?
อุปกรณ์การผลิตแบบแยกส่วนพร้อมคุณสมบัติเชื่อมต่อแล้วใช้งานได้ทันที อีกทั้งใช้อินเทอร์เฟซซอฟต์แวร์และเครื่องจักรที่ออกแบบมาอย่างดี จะสามารถจัดระเบียบการใช้งานเครื่องจักรร่วมกันใหม่เพื่อปรับเข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดาย