เคล็ดลับที่ปฏิบัติได้จริงสำหรับการเลือกระบบตรวจจับโลหะ

ผู้ผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต้องสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของการวิเคราะห์อันตรายและจุดควบคุมวิกฤต (HACCP) ตลอดจนความต้องการด้านกฎระเบียบและมาตรฐานของอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดการคัดแยกผิดพลาดที่ก่อค่าใช้จ่ายสูงและการสูญเสียผลิตภัณฑ์โดยไม่จำเป็น และที่อาจสำคัญไปกว่านั้นก็คือ การหลีกเลี่ยงการเรียกคืนผลิตภัณฑ์ 

เมื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทั่วทั้งบริษัท ระบบตรวจจับโลหะจะเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการคุ้มครองผู้บริโภคและชื่อเสียงของแบรนด์ ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีการตรวจจับโลหะยังคงปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบ และตรวจจับ รวมถึงความแม่นยำอย่างต่อเนื่อง  

การที่จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดโลหะนั้นขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเทคโนโลยีตรวจจับและการเลือกจุดควบคุมวิกฤต (CCP) ที่เหมาะที่สุด ซึ่งในบางกรณีอาจต้องอาศัยการใช้โซลูชันการตรวจจับโลหะในจุดควบคุมวิกฤตหลายจุด ทั้งนี้ ความท้าทายอยู่ที่ความสามารถในการตรวจจับที่สม่ำเสมอรวมถึงความสามารถในการคัดแยกโลหะปลอมปนขนาดเล็กที่สุดที่อาจพบในผลิตภัณฑ์ใดๆ ได้อย่างแม่นยำ

การเลือกระบบตรวจจับโลหะให้เหมาะสมส่วนหนึ่งต้องอาศัยการเลือกเทคโนโลยีที่มีความถี่เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด เพื่อให้สามารถใช้งานโดยมีประสิทธิภาพความไวในการตรวจจับตามที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอและไม่เกิดการคัดแยกผิดพลาดสูงมากนัก แต่ทั้งนี้ก็ควรคำนึงถึงปัจจัยด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ได้แก่ 

• เป้าหมายด้านความสามารถในการผลิต
• ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม (ระบบการทำความสะอาดและระดับการป้องกันการสั่นสะเทือนและสัญญาณรบกวนของโซลูชัน)
• ความต้องการด้านการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ 
• ระดับการสนับสนุนด้านบริการที่ต้องการ

เทคโนโลยีการตรวจจับโลหะไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด คุณต้องอ่าน eGuide นี้ หากคุณต้องการข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการลงทุนกับระบบตรวจจับโลหะครั้งต่อไป