โซลูชันการผลิตแบบอัจฉริยะสามารถนำไปใช้ได้ในหลายแขนงการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ ตัวอย่างการผลิตบางแขนงที่สามารถใช้โซลูชันการผลิตอัจฉริยะได้ มีดังนี้
การวางแผนและการจัดตารางการผลิต: โซลูชันการผลิตแบบอัจฉริยะสามารถช่วยธุรกิจได้ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดตารางการผลิต ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม และลดเวลาหยุดทำงานให้เหลือน้อยที่สุด
การควบคุมและการตรวจสอบคุณภาพ: โซลูชันการผลิตอัจฉริยะสามารถช่วยตรวจจับข้อบกพร่องในกระบวนการผลิตตั้งแต่เนิ่นๆ ลดการสูญเสียผลิตภัณฑ์ และปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ ผู้ผลิตสามารถตรวจพบปัญหาได้แบบเรียลไทม์และดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เซ็นเซอร์และระบบตรวจสอบขั้นสูง
การจัดการห่วงโซ่อุปทาน: โซลูชันการผลิตแบบอัจฉริยะช่วยให้ผู้ผลิตปรับปรุงการจัดการห่วงโซ่อุปทานได้โดยแสดงระดับสินค้าคงคลัง คาดการณ์ความต้องการ และติดตามการจัดส่งแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับระดับสินค้าคงคลังให้เหมาะสม ลดระยะเวลาระหว่างสั่งและได้รับของ และลดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
การบำรุงรักษาและการซ่อมแซม: โซลูชันการผลิตอัจฉริยะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ คาดการณ์ข้อผิดพลาด และกำหนดเวลาเพื่อซ่อมบำรุงเชิงรุกได้ ซึ่งสามารถช่วยลดเวลาหยุดทำงาน ลดต้นทุนการบำรุงรักษา และปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของอุปกรณ์
ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับ: โซลูชันการผลิตอัจฉริยะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปฏิบัติตามกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นได้ ผู้ผลิตสามารถตรวจพบอันตรายต่อความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ และดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เซ็นเซอร์อัจฉริยะและระบบตรวจสอบ