ใครควรชมการนำเสนอนี้?
นักเคมีและวิศวกรที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาทางเคมีในการพัฒนาด้านยาและเวชภัณฑ์รวมถึงสารเคมีที่มีมูลค่าสูง
การใช้การทดลองด้วยข้อมูลที่หลากหลาย (DRE)
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2014 ห้องปฏิบัติการรวมการพัฒนากระบวนการทางเคมี (iLab) ของ Merck ในด้านการวิจัยและพัฒนากระบวนการโมเลกุลขนาดเล็กได้มุ่งเน้นถึงการพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการพื้นฐานที่สำคัญในการสำรองทรัพยากรที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับแนวคิดในการรวมข้อมูลให้แน่นหนามากขึ้น โดยเฉพาะการช่วยให้สามารถเก็บบันทึกข้อมูล ลดข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เราจึงได้พัฒนากิจกรรมเหล่านี้เป็นการทดลองด้วยข้อมูลที่หลากหลาย (DRE) และการลงทุนต่างๆ ได้ก่อให้เกิดแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยผ่านการวิจัยและพัฒนากระบวนการทั้งโมเลกุลขนาดใหญ่และขนาดเล็ก หรือเรียกอีกอีกอย่างว่า "โครงการ DRE"
เพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลขณะปรับปรุงความสามารถในการผลิต แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะไม่อยู่ในห้องปฏิบัติการ
การนำเสนอนี้จะกล่าวถึงการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การสร้างแบบจำลองกระบวนการ ระบบอัตโนมัติแบบตั้งโต๊ะ การทดลองที่มีจำนวนงานปานกลางและจำนวนงานสูง เทคโนโลยีการวิเคราะห์กระบวนการ (PAT) และการทดลองที่ออกแบบโดยใช้ข้อมูลทางสถิติ โดยเราจะพิจารณาถึงหัวข้อดังต่อไปนี้
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนักวิจัยหลายร้อยรายที่ได้ชมการนำเสนอนี้ไปแล้ว
ใครควรชมการนำเสนอนี้?
นักเคมีและวิศวกรที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาทางเคมีในการพัฒนาด้านยาและเวชภัณฑ์รวมถึงสารเคมีที่มีมูลค่าสูง
Shane Grosser สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมเคมีจากมหาวิทยาลัยแห่งโรเชสเตอร์ และปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมเคมีจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน โดยงานวิจัยระดับปริญญาเอกของ Shane มีเนื้อหามุ่งเน้นถึงเทคโนโลยีการจัดลำดับ DNA ที่ร่วมวิจัยกับ Jim Schneider Shane ได้ทำงานที่ Merck ในเมืองราห์เวย์ มลรัฐนิวเจอร์ซี ตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานด้านการวิจัยและการพัฒนาทางวิศวกรรมเคมี และล่าสุดคือด้านการใช้เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวิจัยและพัฒนากระบวนการโมเลกุลขนาดเล็ก นอกเหนือจากบทบาทในการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาขั้นปลายของ Merck แล้ว Shane ยังได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าห้องปฏิบัติการรวมการพัฒนากระบวนการทางเคมีในด้านการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมเคมีเป็นเวลา 6 ปี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเครื่องมือและระเบียบวิธีที่มีความหนาแน่นของข้อมูลสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจถึงกระบวนการอย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ Shane ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในอาชีพการทำงานสนับสนุนความพยายามในการเร่งปฏิกิริยาทางชีวภาพของ Merck ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของกระบวนการทางชีวภาพ โดยเฉพาะการตรึงรูปเอนไซม์ การกำจัดโปรตีน และการออกซิเดชันแบบใช้ออกซิเจนที่ใช้การเร่งปฏิกิริยาด้วยกลไกทางชีวภาพ
โดยเมื่อไม่นานนี้ Shane ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้ากลุ่มที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อมุ่งเน้นถึงการทดลองด้วยข้อมูลที่หลากหลาย ซึ่งขยายขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการรวมการพัฒนากระบวนการให้ครอบคลุมการทดลอง/ระบบอัตโนมัติที่มีจำนวนงานสูง เพื่อส่งเสริมการขยายขอบเขตในการวิจัยและพัฒนากระบวนการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น